ปัจจัยต่างๆในการเลือกสถานดูแลผู้สูงอายุ

ปัจจัยต่างๆในการเลือกสถานดูแลผู้สูงอายุ

การใช้บริการสถานดูแลผู้สูงอายุมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหนคงต้องมองถึงปัจจัยและกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน หากเกิดการเจ็บป่วยขึ้นกับคนที่เรารัก เราจะสามารถทุ่มเวลาดูแลได้จริงหรือ ซึ่งแน่นอนว่าสภาพสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนไปทำให้เราไม่สามารถหยุดงานในระยะยาวด้วยเหตุผลส่วนตัวเช่นนี้ได้ แม้เจ้านายจะเห็นใจแต่องค์กรก็ต้องเดินต่อไปและจำเป็นต้องมีคนทำงาน
ดังนั้นการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้ป่วยไม่ใช่การทอดทิ้งคนที่เรารัก แต่เป็นการจัดสรรเวลาให้ลงตัว พร้อมกับฝากคนที่เรารักไว้กับผู้เชี่ยวชาญย่อมทำให้วางใจได้ สามารถทำงานได้เต็มที่และให้เวลากับคนที่เรารักได้โดยไม่กระทบกับงานและรายได้ในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเลือกสถานดูแลผู้สูงอายุ ด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม อยากฝากให้ศึกษาและเข้าไปสัมผัสสถานที่จริงและลองศึกษาจากเหตุผลแต่ละข้อต่อไปนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกสถานดูแลผู้สูงอายุที่เหมาะสมและสมเหตุสมผลกับเรามากที่สุด
1.บุคลากรและเจ้าหน้าที่ต้องมีความชำนาญ
เหตุผลที่เราควรดูเรื่องบุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญ เพราะหากมีอุปกรณ์ครบครันพร้อมใช้งาน แต่เจ้าหน้าที่ขาดความเชี่ยวชาญ ขาดหัวใจของการให้บริการแก่ผู้ป่วย การรักษาคงเป็นไปได้ช้าเพราะขาดการดูแลที่ถูกต้อง และอาจทำให้ต้องเสียเวลามากขึ้นหากได้รับการบาดเจ็บจากการขาดการเอาใจใส่ ดังนั้นเรื่องบุคลากรในสถานดูแลผู้สูงอายุจึงไม่ควรมองข้ามมากที่สุด เพราะอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยและต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วยมากที่สุด
แพทย์และเจ้าหน้าที่

2.สภาพสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่โดยรอบ
เหตุผลที่เราควรดูเรื่องสภาพแวดล้อม เนื่องจากผู้ป่วยเมื่อต้องอยู่ในศูนย์ดูแลผู้ป่วยจะไม่เหมือนกับการพักฟื้นที่บ้านในหลายด้าน แต่เมื่อต้องนำผู้ป่วยไปใช้บริการสถานดูแลผู้สูงอายุควรเลือกสถานที่ที่กว้างขวาง สะอาด ปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายจากความตึงเครียดที่มีต่อโรคหรือภาวะร่างกายที่ต้องเผชิญอยู่ ภายในศูนย์นั้นควรมีการออกแบบตรงตามมาตรฐานที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ แยกพื้นที่ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ออกเป็นสัดส่วนได้ดี เช่น การจัดเตียงผู้ป่วยต้องไม่แน่นและแออัดเกินไปในกรณีห้องรวม ห้องน้ำควรมีราวเกาะตั้งแต่ประตูไปยังโถส้วมหรือที่อาบน้ำ พื้นห้องน้ำต้องไม่ลื่น ทางเดินต้องเป็นพื้นเรียบ มีพื้นที่ให้ออกกำลังกาย เหล่านี้เป็นเบื้องต้นสภาพแวดล้อม

3.ระบบการรายงานข้อมูลและการแยกผู้ป่วยแต่ละประเภทออกจากกันอย่างชัดเจน
เหตุผลที่เราควรดูเรื่องการแยกประเภทผู้ป่วยออกจากกัน เนื่องจากผู้ป่วยแต่ละคนมีอาการแตกต่างกัน หากไม่แยกอาจทำให้ผู้ป่วยบางประเภทเกิดอาการป่วยอื่นแทรกซ้อนก็เป็นได้ นอกจากการแยกผู้ป่วยแต่ละประเภทแล้วสิ่งที่สำคัญคือการรายงานผลการดูแลเป็นประจำสม่ำเสมอ โดยที่ญาติผู้ป่วยสามารถติดตามผู้ป่วยได้ตลอดเวลาจากกล้อง CCTV และรายละเอียดเพิ่มเติมจากการบันทึกของเจ้าหน้าที่ตจะช่วยให้ทราบถึงแนวทางการดูแลและแนวโน้มของอาการที่ดีขึ้นได้ด้วย
ระบบการรายงานข้อมูลและการแยกผู้ป่วยแต่ละประเภทออกจากกันอย่างชัดเจน

4.ระยะทางที่ใกล้โรงพยาบาลและญาติสะดวกสบายในการพบเจอ
เหตุผลที่เราควรเลือกศูนย์ดูแลผู้ป่วยที่อยู่ใกล้โรงพยาบาล เนื่องจากหากเกิดกรณีฉุกเฉินหรือมีการนัดพบแพทย์เจ้าของไข้ก็สามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น ที่สำคัญกำลังใจจากผู้ป่วยก็คือคนสำคัญในครอบครัวที่มาเยี่ยมเยือน นอกจากนี้ระยะทางและเวลาในการเดินทางที่สะดวกยังช่วยให้สามารถตรวจสอบการดูแลของเจ้าหน้าที่ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ระยะทางที่ใกล้โรงพยาบาลและญาติสะดวกสบายในการพบเจอ

5.กิจกรรมและโภชนาการทางอาหาร
เหตุผลหนึ่งที่เราควรดูเรื่องกิจกรรม เนื่องจากผู้ป่วยจะต้องมีการพักฟื้นแล้วแต่กรณี ซึ่งบางรายอาจต้องทำกายภาพ บางรายอาจต้องเดิน หรืออื่น เพื่อฟื้นตัวจากการเจ็บป่วย ดังนั้นการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมตามแต่บุคคลเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเพราะกิจกรรมจะช่วยคลายความเครียดและช่วยให้อาการป่วยดีขึ้น อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคืออาหาร เนื่องจากอาหารสำหรับผู้ป่วยในบางกรณีจำเป็นต้องเป็นของเหลว หรืออาจต้องลดกลุ่มอาหารบางประเภทเพื่อการรักษาที่ได้ผลมากยิ่งขึ้น จึงทำให้การสอบถามเรื่องการให้อาหารคนป่วยด้วยว่าเป็นเมนูประเภทใด ให้กี่มื้อต่อวันตามกรณี
กิจกรรมและโภชนาการทางอาหาร

6.สอบถามราคาและค่าใช้จ่ายในการทำการดูแล
เหตุผลที่ต้องดูเรื่องราคา เนื่องจากศูนย์ดูแลผู้ป่วยแต่ละที่มีจุดเด่นและจุดด้อยที่แตกต่างกัน ทำให้ราคาเป็นส่วนหนึ่งในการชี้วัดคุณภาพการรับการดูแลในด้านต่าง ๆ แต่การสอบถามจากผู้ที่เคยนำผู้ป่วยไปฝากไว้จะช่วยให้เราทราบเรื่องราคาและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมถึงกระบวนการดแลซึ่งเราจะได้คุ้มกับที่ต้องจ่ายหรือไม่ ซึ่งจะช่วยประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ราคาจะถูกหรือแพง ส่วนหนึ่งต้องมาจากความพร้อมที่จ่ายด้วย เพื่อให้เกิดความสมเหตุสมผล หากต้องได้พักฟื้นเป็นเวลานาน บางคน 3 เดือน บางคน 6 เดือน หรือเป็นปี

ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกศูนย์ดูแลใดให้มาดูแลคนที่เรารัก ควรเข้าไปศึกษาข้อมูลรายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ดี เพื่อจะได้ที่ที่เราสามารถวางใจได้ว่าคนที่เรารักจะได้รับการดูแลอย่างดี รวมถึงที่เราจ่ายไปนั้นคุ้มค่ากับสิ่งที่ได้คืนมามากน้อยแค่ไหน